วันจันทร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

10 เรื่อง(น่าเศร้า)ที่ฝรั่งเข้าใจเมืองไทยผิด !

 

1. เข้าใจว่าประเทศไทยคือไต้หวัน

อันนี้เป็นอะไรที่ได้ยินบ่อยมากกกก อาจจะเพราะว่าออกเสียงคล้ายๆ กัน (ไทยๆ ไต้ๆ) เลยเกิดเป็นความเข้าใจผิด ว่าประเทศไทยคือไต้หวัน (น่าน้อยใจมาก)

A : Where are you from?
B : Thailand.
A : Wowww ! so can you speak chinese fluently?
B : ......

เจอประโยคสนทนาแบบนี้ B คงอึ้งไปเลย ไทยแลนด์นะจ๊ะไม่ใช่ไต้หวัน แล้ว A มันจะว้าวววทำไมเนี่ย ...




2. เข้าใจว่าคนไทยยังขี่ช้างไปไหนมาไหนกันอยู่

อย่างที่รู้ๆ ว่าช้างเป็นสัตว์ประจำบ้านเมืองของไทย ดังนั้นในพวกสารคดีต่างๆ มักจะนำเสนอถึงช้างบ่อยมากๆ ส่วนมากก็เป็นภาพควาญช้างตามต่างจังหวัด ดังนั้นเมื่อชาวต่างชาติได้ดูสารคดีพวกนั้น ก็จะเหมารวมว่าคนไทยยังใช้ช้างเป็นพาหนะในการไปไหนมาไหนกันอยู่ และนอกจากช้างแล้ว บางคนยังคิดว่าขี่ม้าขี่หมูอีก (ไปกันใหญ่ละนะเนี่ย) แต่พอมาถึงกรุงเทพฯ เห็นรถไฟฟ้า เห็นตึกสูงเสียดฟ้า ต่างก็อะเมซิ่งไทยแลนด์กันทุกราย หุหุ

3. เข้าใจว่าเมืองไทยเป็นเมืองขึ้นของประเทศตะวันตก

เพราะเหล่าบรรดาประเทศเพื่อนบ้านของเราต่างก็เคยตกเป็นเมืองขึ้นของชาติตะวันตกมาก่อน เช่น ลาว เคยตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส มาเลเซีย เคยตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ แต่ประเทศไทยกลับไม่เคยตกเป็นเมืองขึ้นของชาติตะวันตกเลย นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ไทยที่ได้ทรงใช้พระปรีชาสามารถในการหาวิธีให้ประเทศของเรารอดพ้นจากการเป็นเมืองขึ้นของชาติอื่นค่ะ


4. เข้าใจว่าพัทยาและภูเก็ตคือทุกอย่างของประเทศไทย

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าชาวต่างชาติบางคนไม่รู้จักกรุงเทพมหานคร แต่กลับรู้จักภูเก็ตและพัทยาเป็นอย่างดีเพราะเป็นที่ท่องเที่ยวทางทะเลที่มีชื่อเสียงมากๆ รวมถึงสถานที่เที่ยวกลางคืนที่ใครๆ ก็นิยมไป เห็นได้จากชาวต่างชาติบางคนนิยมนั่งเครื่องบินบินตรงไปยังภูเก็ตเลย หรือไม่ก็พอลงเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิปุ๊บ ก็บึ่งรถตรงไปพัทยาทันทีโดย ไม่แวะเข้ามาเที่ยวกรุงเทพฯ เลย (พลาดของดีซะแล้วเธอ)

5. เข้าใจว่าคนไทยจนมากๆๆๆ

ถ้าหากใครมีโอกาสได้เปิดดูพวกสารคดีวิถีชีวิตคนไทย จะเห็นได้เลยว่ามักจะนำเสนอชีวิตชาวบ้านในต่างจังหวัดที่ใช้ชีวิตกันค่อนข้างลำบาก เช่น ข้ามเขาสามลูกไปหาบน้ำ พายเรือไปเก็บผักมาขาย ดังนั้นทำให้ชาวต่างชาติดูแล้วเหมารวมอีกเช่นเคยว่าคนไทยนี่จนมากๆ ซึ่งความเชื่อข้อนี้อาจจะไม่ถูกนักแต่ก็ไม่ผิดไปซะทีเดียว เพราะยังไงประเทศไทยก็มีคนจนมากกว่าคนรวยอยู่แล้วล่ะเนาะ


6. เข้าใจว่าคนไทยนิยมใช้ไสยศาสตร์

ความเชื่อนี้ก็มาจากพวกสารคดีวิถีชีวิตไทยอีกแล้วค่ะ เพราะเล่นนำเสนอแต่ภาพการเข้าทรงเอย ผีปอบเอยรำผีฟ้าเอย จนทำให้ชาวต่างชาติเข้าใจว่าคนไทยนิยมเล่นของกัน ซึ่งถ้าพูดกันตรงๆ แบบไม่อ้อมค้อมก็คือ บางทีเค้าก็มองเรา เหมือนที่พวกเราบางคนมองประเทศเขมรว่าชอบเล่นของ อะไรทำนองนั้นอ่ะค่ะ




7. เข้าใจว่าผู้หญิงสวยๆ เป็นกระเทยหรือแปลงเพศมาแล้ว

เป็นผลพวงมาจากการที่ชาวต่างชาติเหล่านั้นได้ชมพวกโชว์ทิฟฟานี่ อัลคาซ่า หรืออะไรทั้งหลายแหล่ค่ะ ซึ่งแต่ละนางที่ขึ้นมาโชว์นั้นก็สวยทั้งเนียนซะเหลือเกิน สวยซะจนผู้หญิงแท้ๆ อย่างเราๆ อยากไปเกิดใหม่ = ="เลยกลายเป็นเข้าใจว่าผู้หญิงไทยสวยๆ คือหญิงไม่แท้ซะอย่างนั้น


8. เข้าใจว่าผู้หญิงไทยเป็นผู้หญิงอย่างว่าทุกคน

คำว่า 'ผู้หญิงอย่างว่า' ในที่นี้คงไม่ต้องอธิบายกันนะคะ = =" ซึ่งอันนี้ก็คงจะโทษใครไม่ได้จริงๆ เพราะในมุมมองชาวต่างชาติบางคน ถ้าพูดถึงประเทศไทยปุ๊บ ความคิดที่แล่นเข้ามาก็คือเรื่องผู้หญิงอย่างว่านั่นเอง เพราะมีผู้หญิงไทยบางคนเดินทางไปต่างประเทศเพื่อไปทำอาชีพอย่างว่านั่นแหละ เชื่อเลยว่า น้องๆ ผู้หญิงที่เคยไปเมืองนอก แทบทุกคนจะต้องเคยเจอผู้ชายลามกๆ เข้ามาทำลวนลาม แล้วถามคำถามอะไรแนวๆ นี้แน่เลยใช่มั้ยคะ ?



9. เข้าใจว่าอาชีพผู้หญิงอย่างว่าเป็นอาชีพที่ถูกกฎหมายในเมืองไทย

ยังไม่จบกันกับเรื่องผู้หญิงอย่างว่า อันนี้ก็ต้องยอมรับกันอีกจริงๆ ว่า ชาวต่างชาติ(ผู้ชาย) บางคนที่มาเมืองไทยถือว่า ถ้ามาเมืองไทย แล้วต้องลองไปเที่ยวอย่างว่า (สรุปว่าไอ้อย่างว่านี่มันคืออะไรเนี่ย 555) รวมถึงอาชีพผู้หญิงอย่างว่าก็สามารถหาได้ไม่ยาก ดังนั้นทำให้ชาวต่างชาติบางคนเข้าใจผิดคิดว่าอาชีพผู้หญิงอย่างว่าเป็นอาชีพที่ถูกกฏหมายนั่นเองค่ะ


10. เข้าใจว่าคนไทยชอบกินพวกของแปลก

ได้แก่ รถด่วน ตั๊กแตนทอด ด้วง แมงดาทอด และอื่นๆ แถมยังเข้าใจว่าคนไทยชอบกินกันสดๆ อีกต่างหาก 555+ ซึ่งอันนี้ก็อาจจะคล้ายๆ ที่เรามองว่าคนเกาหลีกินหมานั่นเองค่ะ คือเป็นแค่คนกลุ่มเล็กๆ ที่กินกัน แต่ก็โดนเหมารวมอีกเช่นเคย

** อาหารเช้า 7 แบบจากทั่วโลก !!!! **

 



ฝรั่งเศส : อาหารเช้าในฝรั่งเศสจะมีกาแฟ อย่าแปลกใจหากคุณทานอาหารในปารีสและพบว่ากาแฟของคุณอยู่ในชามแทนที่จะเป็น แก้ว เพื่อที่ได้ง่ายต่อการนำขนมปังช็อคโกแลตหรือครัวซองท์จิ้มลงไปถือเป็นการทาน แบบดั้งเดิมสำหรับวันหยุด หากเป็นในช่วงกลางอาทิตย์ก็จะเป็นขนมปังกับแยม น้ำผึ้งหรือเนย ลองเริ่มต้นวันใหม่แบบฝรั่งเศสดูซิ



เม็กซิโก : สิ่งที่เหมือนกันมากที่สุดอย่างหนึ่งของคนอเมริกาเหนือก็คืออาหารเช้าแบบ เม็กซิโก huevos rancheros ตอติญ่าที่ทำจากแป้งข้าวโพดราดด้วยไข่ดาวและซอส ranchera มักเสิร์ฟกับ frijoles อาหารจานนี้เกือบจะเป็นอาหารเช้ามาตรฐานตั้งแต่ Austin ถึง Soho แต่ที่เม็กซิโกคุณมาสมารถสั่ง huevos ได้หลายแบบ Huevos divorciados (ตามในรูป) ที่สั่งแยกออกเป็นไข่ฟองหนึ่งราดด้วย salsa roja และอีกฟองหนึ่งราดด้วย alsa verde (ตรงกลางราดด้วยซอสที่ทำจากมะเขือเทศชนิดหนึ่ง)



จา ไมกา : ackee ผลไม้ของจาไมกานำมาตุ๋นจนแห้ง มะเขือเทศ หัวหอม พริกสก็อตบอนเนท และ thyme ที่เป็นส่วนประกอบในอาหารเช้า ต้น ackee เป็นต้นไม่พื้นเมืองของแอฟริกาอยู่ในตระกูลเดียวกับลิ้นจี้และลำไย เนื้อเป็นสีเหลือง ต้องนำไปปรุงถึงจะอร่อย ในการตุ๋นต้องนวดด้วย แช่ไว้ในน้ำทั้งคืนและนำไปต้ม มักเสิร์ฟกับ johnnycakes บิสกิตง่ายๆ ที่ทำจากแป้งหรือแป้งข้าวโพดและนมเปรี้ยวแล้วนำไปทอดในน้ำมัน



เวลส์ : เป็นตัวอย่างของอาหารเช้าของอังกฤษ มีความหลากหลายตามีสิ่งที่เหมือนกันคือเบคอน ไส้กรอก และไข่ มักจะโรยถั่วอบ อย่างไรก็ตามอย่าลืมหา laverbread ด้วย ในจานประกอบด้วยสาหร่ายจากชายฝั่งเวลส์ที่น้ำไปต้มจนเหนียวแล้วนำไปผสมกับ ข้าวโอ๊ตบด รสชาดเป็นอะไรที่พลาดไม่ได้



ญี่ปุ่น : ขณะที่อาหารเช้าทางฝั่งตะวันตกมีส่วนประกอบหลักเป็น ซีเรียล ขนมปังปิ้ง และไข่ แต่อาหารเช้าที่ญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเป็นส่วนใหญ่ของคนญี่ปุ่นด้วยที่จะเริ่มต้นวันด้วย ข้าว อาหารทะเล สาหร่าย และนัตโตะ (ถั่วหมักในซอสถั่วเหลือง) อาจมีอย่างอื่นด้วยที่คุณพบ เช่น เต้าหู้ ปลาทอด และ umeboshi (พลับดอง) ที่ให้รสเค็มและเปรี้ยว



เน เธอแลนด์ : ขนมปังธัญพืชและขนมปังกรอบที่เรียกว่า beschui เป็นคาร์โบไฮเดรตสำหรับตัวอย่างอาหารเช้าของชาวดัตช์สำหรับเวลาเร่งรีบ คนในฮอลแลนด์จะเตรียมเนื้อสไลด์ ชีสก้อนใหญ่ กาแฟเข้มๆ และของที่ใช้ทาหรือราดตั้งแต่ Nutella (ครีมถั่วฮาเซลนัทผสมโกโก้) ไปจนถึงน้ำผึ้ง ถ้าต้องการอะไรที่เป็นแบบฉบับบจริงๆ มองหาขวดที่มีชื่อว่า hagelslag เป็นที่นิยมทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ช็อคโกแลตที่ใช้โรยหน้า (เหมือนที่โรยในไอศกรีมในอเมริกาแต่นุ่มนวลและให้รสมากกว่า) ที่ละเลงลงบน beschuit เป็นองค์ประกอบที่ให้ความหวานกับชาหรือกาแฟ Hagelslag จะใส่ลงในนมช็อคโกแลตหรือดาร์คช็อคโกแลต



จีน : อาหารเช้าของจีนมีความหลากหลายทั้งติ่มซำจนถึงขนมหัวผักกาด แต่อาหารเช้าของจีนที่เป็นที่รู้จักที่สุด ที่ทานกันทั่วประเทศ ไม่ได้ต้องพูดถึงบุฟเฟ่ในโรงแรมตั้งแต่ที่สิงคโปร์จนถึงญี่ปุ่น นั่นก็คือ congee หรือข้าวต้ม รสธรรมดาแต่เป็นอาหารเช้าที่นิยมที่สุด เป็นพื้นฐานและดึงดูดด้วยเครื่องที่ใส่เพิ่มลงไปอย่าง หมูหยอง กุ้งแห้ง และผักดอง

7 สุดยอดถนนที่อันตรายที่สุดในโลก !!

 





1.ถนนสายมรณะ ประเทศโบลิเวีย
ถนน North Yungas ในประเทศโบลิเวีย ขึ้นชื่อว่าเป็นถนนที่อันตรายสำหรับนักขับขี่ที่สุดในโลก มันมีความยาวทั้งหมด 70 กิโลเมตร จากเมือง La Paz ถึงเมือง Coroico ทางโค้งสุดแคบยาวเกือบ 3,600 เมตร โดยที่ข้างๆ เป็นเหวลึก 800 เมตรรอรับรถที่พลาดท่าอยู่! แต่ละปีจะมีคนเกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิตเพราะถนนเส้นนี้ 100-200 ราย



2. ถนนสู่เมือง Yakutsk ประเทศรัสเซีย
นี่คือทางหลวงสายหลักของประเทศรัสเซียที่จะไปยังเมือง Yakutsk และน่าเศร้าไปกว่านั้นก็คือ ถนนสายนี้เป็นทางเส้นเดียวที่จะไปเมืองนี้ได้ และเนื่องจากไม่มีถนนเส้นอื่น ทำให้ผู้ขับขี่ต้องเผชิญกับสภาพรถติดหนึบในโคลนตม ว่ากันว่า เคยมีผู้หญิงคลอดมาแล้วเนื่องจากต้องรอนานเกิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเกิดฝนตกล่ะก็ ถนนเหล่านี้จะกลายเป็นกำแพงโคลนอย่างดี ที่จะขวางกั้นทางผ่านและดูดได้แม้กระทั่งรถบรรทุก!



3. เส้นทางทหารในรัสเซีย-จอร์เจีย
เส้นทางทหารของอดีตสหภาพโซเวียต-จอร์เจีย ที่ชื่อว่า Sukhumi นี้มีพื้นที่อยู่ในหุบเขาคอเคซัส ซึ่งทางเดียวที่จะนำพานักขับขี่ไปสู่จุดมุ่งหมายได้ก็คือ การถามคนท้องถิ่นที่อาศัยอยู่ในหุบเขานี้เท่านั้น... แล้วจะมีผ่านมาซักกี่คนล่ะ!



4. ถนนในเนปาล, ธิเบตและบังคลาเทศ
นี่คือถนนที่มีเส้นทางจากอินเดียไปถึงเนปาล ถือได้ว่าเป็นถนนสายมรณะอีกแห่งหนึ่งเช่นกัน



5.สุดยอดเส้นทางเดินเท้าในประเทศจีน
นอกจากเส้นทางสำหรับรถแล้ว ยังมีเส้นทางเดินเท้าสำหรับนักผจญภัยที่ติดอันดับการทำให้ขนหัวลุกมากที่สุดในโลก มีพื้นที่อยู่ในภูเขา Huashan ของมณฑล Xian ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวหนาแน่นที่สุด เส้นทางบนภูเขานั้นทั้งขรุขระและชัน แถมยังไม่รับประกันความปลอดภัยอีกต่างหาก... ใครอยากสัมผัสประสบการณ์แสนเร้าใจก็ลองดู



6. อุโมงค์ Guoliang ประเทศจีน
แม้จะไม่อันตรายเหมือนถนนเส้นอื่นๆ ที่เรากล่าวมา แต่ก็ต้องมีสมาธิในการขับซักหน่อย เพราะไม่รู้ว่าวันไหนกำแพงหินเหล่านี้จะถล่มลงมา! อุโมงค์ Guoliang ในภูเขา Taihang ของประเทศจีนถูกขุดขึ้นมาโดยชาวบ้านในหมู่บ้านแห่งหนึ่งเพื่อที่จะผ่านไปสู่โลกภายนอก โดยขุดทางอุโมงค์ผ่านหน้าผาหินเป็นทางยาว 1,200 เมตรสูง 5 เมตรและกว้าง 4 เมตร ใช้เวลาขุดถึง 5 ปี!



7. ถนน Pasubio ประเทศอิตาลีPasubio เป็นถนนสายเก่าที่ถูกเปลี่ยนเป็นเส้นทางเดินเท้า ด้วยทัศนียภาพที่สวยงามของถนนเส้นนี้ ทำให้นักขับขี่รถจักรยานยนต์ต่างก็หลงใหล แล้วมันก็ยังมีอุโมงค์ที่งดงามและหน้าผาสูงชันที่ทำให้ขนหัวลุก!

สาระดีๆเกี่ยวกับกรุ๊ปเลือดในตัวเรา

 

กรุ๊ป A คนที่มีเลือดกรุ๊ป เอ จะอ่อนไหวต่อการเป็นมะเร็งได้ง่ายกว่าคนที่มีเลือดกรุ๊ปอื่น เพราะฉะนั้นคนที่มีเลือดกรุ๊ปนี้จึงต้องหมั่นไปตรวจสุขภาพอยู่เป็นประจำ
สำหรับคนที่มีเลือดกรุ๊ปนี้เคยสังเกตตัวเองหลังดื่มนมบ้างหรือเปล่า เพราะคนที่มีเลือดกรุ๊ปนี้เวลาทานนมเข้าไปแล้วจะมีอาการท้องอืดแน่นเฟ้อ เรอเหม็นเปรี้ยว เนื่องจากแอนติเจนที่อยู่ในเซลล์ของเลือดกรุ๊ป A จะทำปฏิกิริยากับนม เพราะฉะนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงอาหารจำพวก ข้าวสาลี เนื้อติดมัน นม เป็นพิเศษ
ส่วนอาหารที่ควรรับประทานนั้นได้แก่อาหารจำพวกผักใบเขียว ใบเหลือง รวมทั้งธัญพืชและถั่วต่าง ๆ ยิ่งถ้าทานเข้าไปในปริมาณมาก ๆ ก็จะยิ่งดีต่อสุขภาพ

กรุ๊ป B พวกที่อยู่ในเลือดกรุ๊ปนี้ถือเป็นเลือดที่กำเนิดขึ้นมาเป็นอันดับสามของมนุษย์ ว่ากันว่าเลือด กรุ๊ปนี้พึ่งเกิดขึ้นเมื่อคนเรารู้จักเลี้ยงสัตว์ที่ให้นม คนที่มีเลือดกรุ๊ปนี้จึงสามารถรับประทานนมได้โดยไม่มีอาการเรอเหม็นเปี้ยวเหมือนกับเลือดกรุ๊ป A
นอกจากนมแล้ว อาหารประเภทเนื้อสัตว์ได้แก่ เนื้อกวาง เนื้อกระต่าย ก็จะเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพมาก แต่ควรหลีกเลี่ยงเนื้อไก่

กรุ๊ป O เลือดกรุ๊ปนี้ถือว่าเป็นเลือดกรุ๊ปแรกที่เกิดขึ้น ดังนั้นคนที่มีเลือดกรุ๊ปนี้จะเป็นคนที่มีสุขภาพที่ดีมาก การเลือกรับประทานอาหารควรเลือกที่จะรับประทานเนื้อสัตว์ ได้แก่ เป็ด ไก่ ปลา (ยกเว้นหมู) และควรรับประทานผักผลไม้มาก ๆ เนื่องจากคนสมัยโบราณมักจะหากินเนื้อสัตว์ ไม่ได้กินนม เพราะฉะนั้นคนที่มีเลือดกรุ๊ปนี้จึงควรหลีกเลี่ยงนม เพราะถ้าดื่มนมมีแนวโน้มว่าจะทำให้แผลเน่าเปื่อย หรือเกิดอาการอักเสบได้ง่ายกว่าคนที่มีเลือดกรุ๊ปอื่น

กรุ๊ป AB เป็นเลือดกรุ๊ปสุดท้ายที่เกิดขึ้นในมนุษย์เรา คนที่มีเลือดกรุ๊ปนี้มีเพียงแค่ 2 % เท่านั้นเอง คนที่มีเลือดกรุ๊ปนี้จะมีลักษณะคล้าย ๆ คนเลือดกรุ๊ป B คือระบบการย่อยอาหารนั้นมักจะมีกรดเกิดขึ้นในลำไส้ใหญ่ ดังนั้นการเลือกรับประทานเนื้อสัตว์ควรเลือกรับประทานในปริมาณที่น้อย และอย่าบ่อยจนเกินไป อาจสังเกตได้ถ้ามีอาการเรอบ่อยครั้ง

วิธีลดหน้าท้อง

 



** เครื่องปรุง** 1. โยเกิร์ต ครึ่งถ้วย 2. นมสด 1 กล่อง 3. น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ 4. มะนาว 1 ลูก


** วิธีทำ**

นำเครื่องปรุงทั้งหมดผสมให้เข้ากันชิมรสตามใจชอบ

** วิธีการดื่ม**

ต้องดื่มตอนเช้า มื้อเดียวก่อนอาหาร มื้ออื่นไม่เห็นผล มะนาวก็ควรบีบแล้วกินทันที เพื่อรักษาคุณสมบัติวิตามินซีไว้ และควรดื่มน้ำตาม 1-2 แก้ว จะเห็นผลดียิ่งขึ้น

** สรรพคุณ**

ไม่ใช่ยาลดน้ำหนักโดยตรง แต่จะปรับธาตุ ล้างพิษในลำไส้ ล้างไขมัน กินวันแรกๆ จะ เห็นเลยว่าอุจจาระจะเป็นสีดำ และไล่ลมในกระเพาะดีมาก ระยะต่อมา เมื่อลำไส้และกระเพาะอาหารในร่างกายปรับตัวได้กับอาหารที่กินแล้วจะเข้าสู่ ภาวะปกติ แต่ต่อมาจะมีความรู้สึกว่าหน้าท้องยุบลงไปเรื่อยควรกินทุกเช้าติดต่อกันทุกวัน

** โทษของไขมัน**

ไขมันที่เกาะในผนังลำไส้ กระเพาะอาหารตับม้ามให้ดูดซึมบกพร่องเป็นเหตุให้เกิดโรคต่างๆ ดังนี้


1. ถุงน้ำดี ทำให้นอนไม่หลับ อารมณ์ฉุนเฉียว นิ่วในไต สายตาเสื่อม ปวดเมื่อยตามร่างกาย
2. เลือดเลี้ยงสมองไม่พอ ทำให้มึนศรีษะ
3. ไตเสื่อม ทำให้ความจำลดลงและเป็นคนขี้หนาว
4. ม้ามชื้น ทำให้อาหารที่กินเข้าไปแปรสภาพเป็นไขมันเป็นผลทำให้อ้วนง่าย
5. ม้ามโต ทำให้เหนื่อยง่ายเพราะม้ามไปเบียดปอด
6. ถ้าไขมันเกาะลำไส้เล็กมากๆ จะทำให้ลำไส้เล็กไม่สามารถดูดซึมวิตามินซีได้ เป็นผลทำให้เป็นหวัดในตอนเช้าหรือหวัดเรื้อรัง กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ เกิดโรคภูมิแพ้
7. ถ้าไขมันในตับสูง การสร้างเม็ดเลือดจะลำบาก ฉะนั้นการดื่มตามสูตรนี้ นอกจากช่วยลดหน้าท้อง ยังส่งผลให้อาการป่วยทั้ง 7 ประการนี้หายไป ด้วย

15 ข้อคิดดี ๆ รักษาจิตใจ

1. คนเรามีความรู้สึกรัก ชอบ โกรธ เศร้า ไม่ต่างกัน
ขึ้นอยู่กับว่าเวลาไหนมันจะแสดงออกมามากน้อยเพียงใดเท่านั้น
"คนที่จะหัวเราะได้เสียงดัง ข้างในคงต้องขำบ้างพอสมควร คนที่น้ำตาจะไหลได้
ข้างในคงมีเรื่องปวดร้าว....ถ้าไม่นับการร้องไห้ที่มาจากความปิติ "

2.โลกสอนมนุษย์ว่าทุกสิ่งต้องมีการเปลี่ยนแปลง...แต่โลกก็กลับสอนให้มนุษย์ผูกพัน

3. คนที่ตลกหัวเราะสดใส ก็คือคนเดียวกับคนที่สามารถร้องไห้ฟูมฟายได้
เพียงแต่คุณจะได้เห็นหรือเปล่าเท่านั้น อาจจะเคยได้ยินว่า "
คนที่หัวเราะได้ดังที่สุด ก็คือคนที่สามารถร้องไห้ได้ดังที่สุดเช่นกัน"

4. เด็กๆ จะมองว่าผู้ใหญ่ซีเรียส ในขณะที่ผู้ใหญ่จะบอกว่า เด็กไร้สาระ
เพราะเด็กไม่เคยเป็นผู้ใหญ่มาก่อน วันหนึ่งเค้าคงจะรู้ว่าทำไมถึงต้องมีเรื่องซีเรียส
สำหรับผู้ใหญ่ซึ่งได้ผ่านวัยเด็กมาแล้วอาจจะลืมไปว่า ณ วันที่ผ่านมา"
สาระ"ในชีวิตของเ-า คืออะไร

5. ครอบครัวไทยมักจะเลี้ยงลูกผู้หญิงให้เป็นฝ่ายถูกเลือก
คอยสั่งสอนให้ทำตัวเรียบร้อย ไม่อย่างนั้นจะไม่มีใครเลือกไปเป็นคู่ครอง....
แต่ความจริงแล้วผู้ชายและผู้หญิง เราต่างเลือกซึ่งกันและกันมากกว่า

6. เพื่อนที่ดีที่สุด คือคนที่คุณสามารถนั่งอยู่ริมระเบียงด้วยกันโดยไม่พูดอะไรกันซักคำ
แต่สามารถเดินจากไป ด้วยความรู้สึกเหมือนได้คุยกันอย่างประทับใจที่สุด

7.ใครหลายคนไม่กล้าเข้าไปปลอบโยนให้คำปรึกษากับเพื่อนเพราะคิดว่าเราไม่รู้จะบอก
เคายังไงเพราะเราเป็นแค่เพื่อน....แต่ความจริงแล้วคุณเป็นตั้งเพื่อนต่างหาก

8. ผู้ชายที่ร้องไห้ และยอมรับว่าตัวเองร้องไห้เขาคือสุภาพบุรุษที่สุด
อย่างน้อยการซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเอง... คือความกล้าหาญสุดยอด

9. ก่อนที่วันนี้ คุณจะทำความรู้จักกับผู้คนใหม่ๆ
อย่าลืมสำรวจตัวเองก่อนว่า
ในช่วงเวลาที่ผ่านมา... ทำใครหล่นหายไปจากชีวิตหรือเปล่า

10. เงินไม่ใช่พระเจ้า แต่ทำให้เรามีทางเลือกมากขึ้น


11. มีสติ สตางค์อยู่ ก็ปลีกเวลาไปใช้เสียบ้าง
อีกหน่อยไม่มีสติแต่มีสตางค์...ก็สายไปเสียแล้ว

12. เวลาที่เรารักใคร เราจะรู้สึกตัวเล็กเ หลือเกิน...เวลาใครรักเรา
เราจะรู้สึกตัวใหญ่เหลือเกิน...แต่ถ้าเราเจอคนที่เรารักเขาและเขาก็รักเรา
เราจะผลัดกันตัวเล็กตัวใหญ่

13. วันที่คุณเข้มแข็งและแข็งแรงพอ
อย่าลืมเป็นผู้ฟังที่ดีให้กับคนที่มีปัญหาด้วย "เอาไหล่ให้เขาพิง
เอามือให้เขาจับ".....100 คำพูดดี ดี ไม่เท่ากับ 1 สัมผัสที่มีค่าหรอกนะ

14. คุณรู้ไหมว่า อายุคนเราเฉลี่ย 76 ปีนั่นคือแค่ 3,952
อาทิตย์เท่านั้นคุณหมดเวลาไปกับการนอนถึง 1317 อาทิตย์
ซึ่งเท่ากับว่าคุณเหลือเวลาที่ใช้ดำเนินชีวิตแค่ 2,635 อาทิตย์เท่านั้นเอง

15. ลองฉลองวันเกิดกับครอบครัวสักปี แล้วคุณจะได้รู้ว่า
เมื่อตอนที่คุณร้องไห้จ้าในวันเกิดวันแรก
คนในครอบครัวคุณมีความสุขกันขนาดไหน.......

อ่านครบ 15 ข้อแล้วลองทำดูนะ ให้ชีวิตอยู่อย่างรื่นๆ ชื่นฤทัย สบายใจกันดีที่สุด

การพับกระดาษแบบญี่ปุ่นหรือOrigami

 

Mouse(face)






Fox(face)






Bear(face)






Goldfish






Tulip



ประวัติสะพานพุทธ


“สะพานพุทธ” กับช่วงเวลาสุนทรีย์ของวัยมันส์

“สะพานพุทธ” ถือเป็นแหล่งช้อปปิ้งยามค่ำคืน อันดับต้นๆ ของคนกรุงเทพฯเลยก็ว่าได้ เพราะสถานที่แห่งนี้ถือได้ว่า เป็นแหล่งช้อปปิ้งยามค่ำคืนแห่งแรกๆ ของเมืองกรุงเทพฯ ผมจำไม่ได้แล้วว่า กรุงเทพมหานครมีตลอดแห่งนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่เท่าที่จำได้สถานที่แห่งนี้ มีมาตั้งแต่สมัยตอนผมเรียนมัธยมแล้ว แต่สมัยนั้นสะพานพุทธไม่ใช่ตลาดช้อปปิ้ง แต่เป็นสถานที่ที่ชุมนุมของนักเรียนหลายสถาบัน ไม่ว่าจะเป็น สวนกุหลาบวิทยาลัย หรือ วิทยาลัยเพาะช่าง สำหรับสองโรงเรียนนี้จะมีเยอะเป็นพิเศษ แต่ก็มีสถาบันอื่นอีกด้วย เนื่องจากตอนนี้ที่แห่งนี้ เป็นที่นั่งพัก กินลมชมวิว หรือชิวๆ กันได้ตามประสาวัยรุ่นนั่นเอง

แต่ในช่วงหนึ่ง ทางรัฐบาลได้สั่งย้าย ตลาดคลองหลอดมาไว้ที่นี่ ก็เลยทำให้ที่นี่กลายเป็นตลาดนัดย่อม ที่อาจจะมีนักเรียน นักศึกษา ไปขายงานศิลปะกันอยู่บ้างในช่วงแรกๆ แต่พอนานเข้า จากเล็กกลายเป็นใหญ่ จากคนไม่รู้จักก็เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น เนื่องจากถ้าเทียบสมัยก่อนกับตอนนี้ ถ้าจะหาแหล่งเดินเล่น ช้อปปิ้ง ยามค่ำคืนมันก็ยากอยู่เหมือนกัน ไม่ใช่ในปัจจุบันที่มีตลาดเปิดท้ายตามห้างเป็นว่าเล่นแบบนี้ และ “สะพานพุทธ” ก็เลยกลายมาเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่คนเริ่มหลั่งไหลเข้ามาจนถึงปัจจุบัน



แต่อย่างที่รู้ๆ กันดีว่า ปัจจุบันกรุงเทพมหานครเปลี่ยนไปเยอะจากสมัยก่อน ไม่ว่าจะเป็นสภาพสิ่งแวดล้อมหรือแม้แต่ลักษณะของผู้คน ถ้าจะพูดถึงสิ่งแวดล้อมที่ “สะพานพุทธ” สถานที่แห่งนี้ก็ยังเป็นสะพานที่คนนิยมมาเดินเล่น และดื่มด่ำบรรยากาศริมน้ำอยู่เหมือนเดิม ต้นไม้ใบหญ้าก็ยังปกคลุมหนาบ้าง ซึ่งถือได้ว่ายังไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากแต่สภาพของผู้คนที่นี่เปลี่ยนไปเยอะเลยครับ จากที่แต่ก่อนที่ผมบอกว่าเป็นแค่ที่นั่งกินลมชิมวิวของนักศึกษา ตอนนี้นักเรียน นักศึกษาก็ยังมาเหมือนเดิม แต่พฤติกรรมแย่กว่าเดิม เด็กวัยรุ่นส่วนใหญ่ที่มาที่นี่ นอกจากจะมีวัตถุประสงค์ในการมาเดินช้อปปิ้งแล้ว พวกเค้ายังมาเพื่อเกาะกลุ่มมั่วสุมกันบ้าง เชื่อมั้ยว่าล่าสุดที่ผมไปมา เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานั้น ผมเห็นเด็กสาว เด็กหนุ่ม อายุราวๆ 13-15 ปี แต่งตัวแปลกๆ เดินอยู่บริเวณนั้นมากมายจนน่าตกใจ ทั้งบนสะพานพุทธ และ ในตลาดช้อปปิ้ง บางคนก็ดื่มสุรา บางคนก็สูบบุหรี่บ้าง เห็นแล้วผมบอกได้เลยคำเดียวว่า สลดใจมากๆ ภาพของสะพานพุทธสมัยก่อนมันย้อนกลับมาในสมองของผม แล้วก็บอกตัวเองว่า มันไม่มีอีกแล้วครับ


จากภาพในด้านที่ผมได้กล่าวไปแล้วนั้น ที่นี่ก็ยังมีความน่าประทับใจ เช่นกัน สถานที่แห่งนี้ถือเป็นแหล่งค้าขาย หรือช้อปปิ้งยอดนิยม สินค้าของที่นี่ก็นำสมัยเหมือนที่ช้อปปิ้งทั่วไป แต่อาจจะมีเอกลักษณ์ส่วนตัวที่เห็นแล้วต้องร้องออกมา เลยว่า ต้องที่สะพานพุทธเท่านั้น อย่างการวาดภาพศิลปะ ที่นี่เค้ามีศิลปิน วาดภาพมารับจ้างวาดอยู่เป็นประจำ อยากได้ภาพแนวไหนบอกเค้า ก็สามารถเนรมิตให้คุณได้ ทุกครั้งที่ผมไปผมก็จะไปนั่งดูเค้าวาดรูปแต่ละรูป มันต้องใช้เวลานะ กว่าจะได้แต่ละรูปมา อย่างน้อยมันก็ทำให้ได้รู้ว่า ถ้ามาสะพานพุทธเราก็ต้องมาวาดรูป


การเดินทาง

เวลาที่จะมา”สะพานพุทธ” ถ้าเอารถมา แนะนำให้มาในช่วงก่อนค่ำ ที่นี่จะไม่ค่อยมีรถหนาแน่เท่าไหร่ จะมีที่รับฝากรถอยู่ตามทาง ให้สังเกตดูเอา แต่ถ้ามาดึกล่ะก็ ให้หาที่จอดได้ตามริมฟุตบาท ต้องดุด้วยนะว่า ที่ไหนเค้ามีให้จอดบ้าง เพราะบางที่ถ้าจอดไว้กลับมาอาจจะเจอใบสั่งแดงเถือกอยุ่หน้ากระจกรถก็เป็นได้ เรื่องนี้ต้องใช้วิจารณญาณ บอกได้คำเดียวว่าเสี่ยงเอ แต่ถ้าให้สะดวกจริงๆ แนะนำรถเมล์ครับ สะดวกมาก มาถึงลงเลย เดินเสร็จเมื่อยก็นั่งแท็กซี่กลับ สบายใจกว่าเยอะเลย ไม่เปลืองน้ำมันด้วย ช่วงนี้ยิ่งเศรษฐกิจไม่ค่อยจะดีอยู่ สายรถเมล์ที่ผ่านได้แก่ สาย 73, 3, 5, 6, 8, 10, 43, 53,

10 สายพันธุ์สุนัขที่ฉลาดที่สุดในโลก


1.border collie
เป็นสุนัขเลี้ยงแกะ ที่มีความสามารถมาก มีความสามารถขนาดไหน ถ้านึกไม่ออก ให้นึกถึง ภาพยนตร์เรื่อง Babe สุนัขที่สอนหมูให้
ต้อนฝูงแกะไง... นั่นแหละบอร์เดอร์ คอลลี นอกจากนี้ บอร์เดอร์ คอลลี ยังถูกใช้เป็นสุนัขตามหา คนที่หลงทางในภูเขา และนำทาง
คนตาบอดอีกด้วย

ต้นกำเนิดของบอร์เดอร์ คอลลีมาจากสก็อตแลนด์ เช่นเดียวกับคอลลีพันธุ์อื่นๆ ความสามารถพิเศษของบอร์เดอร์ คอลลี คือ การ
ทำงานได้อย่างเงียบเชียบ นุ่มนวล มันมักจะคืบคลาน หัวและหางเรี่ยอยู่ระดับพื้นดิน ใช้สายตาจ้องมองฝูงสัตว์ พร้อมจะกระโจนไล่
ต้อนฝูงสัตว์ หากได้รับคำสั่งจากเจ้านาย จากลักษณะดังกล่าวนี้เอง จึงคาดกันว่า บอร์เดอร์ คอลลี น่าจะเกิดจากการผสม ข้ามพันธุ์
ระหว่างคอลลี กับเซตเตอร์ หรือพอยเตอร์ หรือสเปเนี่ยน สุนัขพันธุ์นี้ถูกใช้เป็นสุนัขต้อนฝูงแกะมานาน โดยเฉพาะบริเวณชายแดน
ระหว่างอังกฤษ กับสก็อตแลนด์ จนเป็นที่มาของชื่อ บอร์เดอร์ คอลลี แต่มาตรฐาน ของสุนัขพันธุ์นี้ เพิ่งเป็นที่ยอมรับของสมาคมผู้
เลี้ยงสุนัข แห่งอังกฤษ ในปี ค.ศ. 1976



2.poodleในบรรดาพันธุ์สุนัขทั้งหลาย พันธุ์ poodle ที่ถูกเพาะมาอย่างดี ถือเป็นพันธุ์ที่เฉลียวฉลาด และมีความรับผิดชอบสูงที่สุด poodle
ทั้ง 3 ชนิดเป็นสุนัขที่ร่าเริง ขี้เล่น ช่างประจบเอาใจ มีพลังงานเหลือล้น มีสเน่ห์ และต้องการเป็นที่พอใจของเจ้าของตลอดเวลาี่เมื่อ
เลี้ยงแล้ว เค้าจะมีความผูกพันธุ์สูงมากกับเจ้าของ เรียกได้ว่า รักถวายชีวิตทีเดียว ดังนั้น การเลี้ยงเค้าไม่ได้ตลอดไป หรือต้องให้
เค้าไปอยู่กับผู้อื่นเมื่อเค้าโตขึ้น จะเป็นสิ่งที่ทำร้ายจิตใจเค้ามาก และอาจนำพา มาสู่พฤติกรรมที่ผิดปกติได้

เค้าจะชอบที่จะทำงานมีส่วนร่วมกับเจ้าของ และเข้ากันได้ดีกับสัตว์ชนิดอื่น Minature และ Toy Poodle จะเข้ากันกับคนแปลกหน้า
และเด็กได้ดีกว่า Standard Poodle แต่อย่างไรก็ตาม ลักษณะของการกัดคนแปลกหน้ามักพบใน Minature และ Toy ได้มากกว่า



3. german shepherd
เยอรมัน เชพเพิร์ด หรือ ดอยต์เชอ เชฟเฟอร์ฮุนด์ หรืออีกชื่อที่นิยมเรียกกัน คือ อัลเซเซียน นั่นเอง สุนัขพันธุ์นี้ถือว่าเป็นสุนัขที่คน
นิยมเลี้ยงกันมากที่สุดในโลกก็ว่าได้ เพราะมีความฉลาด สอนง่าย และกระตือรือร้นตลอดเวลา แต่เดิมคนใช้สุนัขพันธุ์นี้ไว้ต้อนแกะ
แต่ปัจจุบันได้นำมาพัฒนาเพื่อใช้งานหลายด้าน เนื่องจากฉลาดในการรับรู้สิ่งต่างๆ เป็นสุนัขที่มีมีถิ่นกำเนิดในอยู่ในประเทศเยอรมัน
เกิดขึ้นประมาณปี ค.ศ. 1800

ลักษณะประจำพันธุ์ สุนัขพันธุ์นี้มีลำตัวค่อนข้างยาว มีช่วงปากที่ยาวเกินครึ่งของความยาวใบหน้า ลักษณะหูตั้ง ปลายหูเรียวเล็ก
บริเวณใบหน้า ลงมาถึงจมูก จะมีสีขนที่เข้ม ขาหลังมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง ลักษณะหางจะตกและมีขนหนา



4. golden retrieverโกลเดน รีทรีฟเวอร์ ,รีทรีฟเวอร์ขนสีเหลือง หรือ รัสเซียน รีทรีฟเวอร์ เป็นสุนัขที่ตื่นตัว และตอบสนองคำสั่งได้อย่างรวดเร็ว แต่เดิม
ใช้งานเพื่อหานกที่ถูกยิงตกนำมาให้เจ้าของ เนื่องจากมีสีขนสวยงามจึงทำให้ได้รับความนิยมมาก สุนัขพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดในประเทศ
อังกฤษ ว่ากันว่าพัฒนามาจากสุนัขในคณะละครสัตว์ของชาวรัสเซีย กำเนิดราว ค.ศ. 1800 แต่เดิมมีชื่อว่า สุนัขพันธุ์ขนเรียบทอง
จนในปี ค.ศ. 1900 ได้ถูกตั้งชื่อให้ว่า โกลเดนรีทรีฟเวอร์

ลักษณะประจำพันธุ์ สุนัขพันธุ์นี้จะมีลักษณะหัวกว้างและมีช่วงปากที่แข็งแรง ตาสีน้ำตาล หูค่อนข้างใหญ่เป็นรูปสามเหลี่ยม ปรกลงมา
ด้านข้าง มีขน2แบบคือ เรียบกับเป็นลอน ขาหน้าตรงแข็งแรง เท้ากลมคล้ายเท้าแมว ลักษณะหางชี้ตรงระดับเดียวกับหลัง ขนบริเวณ
หางจะยาวและหนา



5. doberman pinscher
นี่คือสายพันธุ์ที่มีจุดกำเนิดเมื่อไม่นานมานี้ เขาถูกพัฒนาใน ค.ศ.1860 พอสันนิษฐานได้ว่าเป็นการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่า German
Pinschers กับ Rottweilers, Beauceron Pinschers} Greyhounds และ English Greyhound เพื่อสร้าง Doberman Pinscher
ที่ผอมและมีสติปัญญาสูง ผู้ให้กำเนิดของการผสมข้ามพันธุ์คือคนเก็บภาษีชาวเยอรมันชื่อ Louis Doberman ซึ่งได้เดินทางผ่านพื้น
ที่ที่มีโจรรังควาญบ่อยๆเลยตัดสินใจที่จะสร้างสุนัขเฝ้าบ้านและสุนัขอารักขาซึ่งสามารถรับมือกับทุกสถานการณ์ซึ่งอาจเกิดขึ้น มีการ
อ้างอิงชื่อผู้ให้กำเนิดของเขา Doberman ได้รับการนำเสนอครั้งแรกที่สนามโชว์สุนัขใน ค.ศ.1876 ซึ่งเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ทันที



6. shetland sheepdog
อาจจะสืบเชื้อสายมากจาก Rough Collies ซึ่งถูกนำไปที่เกาะ Scottish Island ของ Shetland และผสมข้ามสายพันธุ์กับ Icelandie
Yakkin สุนัขเกาะตัวเล็ก (ปัจจุบันไม่ได้รับการยอมรับต่อไป) โดยนำไปบนเรือของชาวประมง ใน ค.ศ.1700 สายพันธุ์ได้รับการพัฒนา
จนสมบูรณ์ เป็นเวลาร่วมศตวรรษที่สุนัขเล็กเหล่านี้ถูกให้ต้อนแกะและอารักขาฝูงแกะของ Shetland เกาะที่มีพายุแยกออกไปจาก
ชายฝั่งทะเลที่ซึ่งสัตว์จำนวนมากมายค่อนข้างเล็กน้อยด้านความสูง ความประณีตของการผสมได้มักเกิดขึ้นเป็นส่วนใหญ่ ในศตวรรษที่
20 ภายหลัง Shetland ถูกส่งออกไป Scotland ซึ่งเป็นแผ่นดินใหญ่ของประเทศอังกฤษและประเทศไกลโพ้น Sheltie ตัวเล็กเหล่านี้
เป็นสุนัขอ่อนโยนมากเมื่อต้อนปศุสัตว์ตัวเล็ก เป็นหนึ่งของสายพันธุ์ที่แข่งขันการเชื่อฟังได้ยอดเยี่ยม Sheltie เป็นสุนัขทำงานที่สง่างาม
และตั้งใจ พวกเขาได้รับการยอมรับครั้งแรกในประเทศอังกฤษใน ค.ศ.1909 และจดทะเบียนครั้งแรกในอเมริกาใน ค.ศ.1911 เพราะ
นิสัยที่ใจดี ทุกวันนี้กลายเป็นหนึ่งของสุนัขที่เป็นเพื่อนซึ่งได้รับความนิยมมากที่สุด ความสามารถพิเศษของ Sheltie ได้แก่ การตามรอย
ต้อนสัตว์ เฝ้าบ้าน อารักขา ฉลาดเฉลียว แข่งขันการเชื่อฟังและเล่นกล




7. Labrador Retriever
ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ นิสัยเป็นมิตร ฉลาด และตอบสนองคำสั่งได้อย่างรวดเร็ว เป็นสุนัขที่มีหางต่างจาก สุนัขพันธุ์รีทรีฟเวอร์ทั่วไป
คือ มีโคนหางใหญ่หนาและเรียวไล่ลงจนถึงปลายหางโดยไม่มีพู่หาง แต่เดิมใช้เพื่อช่วยงานชาวประมงลากอวนเข้าฝั่ง ต่อมาได้ถูก
พัฒนาความสามารถให้เป็นสุนัขนำทางคนตาบอด และตรวจค้นยาเสพติด,วัตถุระเบิด สุนัขพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดในนิวฟาวนด์แลนด์
ประเทศแคนาดา กำเนิดในราว ค.ศ. 1800

สุนัขพันธุ์นี้จะรูปร่างเหมือนกับสุนัขพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ สีขนจะเป็นสีเดียวกับทั่วทั้งลำตัว มีทั้งสีดำ ขาว น้ำตาลอ่อน และน้ำตาล
เข้ม ลักษณะขนสั้นเป็นสองชั้น ส่วนหัวกว้าง ขอบบนของเบ้าตาเป็นสันนูนขึ้นเล็กน้อย มีช่วงไหล่ที่กว้าง


8. papillon
คำว่า PAPILLON อ่านว่า ปา-ปิ-ยอง เป็นคำ ในภาษาฝรั่งเศสหมายถึงผีเสื้อ สุนัขพันธุ์นี้ เป็นสุนัข SPANIEL ที่มีขนาดเล็กกว่า
SPANIEL ขนาดธรรมดามาก นิยมเลี้ยง กันอย่างแพร่หลาย ในคริสตศตวรรษที่ 16 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่สตรีผู้สูงศักดิ์ เช่น
MADAME POMPADOUR และ MARIE ANTOINETTE ในสมัยนั้น มีการค้าขายสุนัขพันธุ์ นี้กันอย่างกว้างขวางโดยมี SPAIN
เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุด ส่วนหูของ PAPILLON มีลักษณะ คล้ายผีเสื้อ

ลักษณะนิสัย เป็นสายพันธุ์ที่ฉลาดอย่างน่าทึ่ง แข็งแรง กล้าหาญกว่าที่คิด รักเจ้าของ และพร้อมจะปกป้องเจ้าของ จากผู้บุกรุก
ชนิดยอมตายถวายชีวิตเลย ขี้เล่นและกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้สิ่งรอบข้าง เป็นมิตร สง่างาม ลักษณะการเดินหรือท่าทางน่ารัก



9. rottweiler
สุนัขพันธุ์นี้ไม่ปรากฎหลักฐานแน่ชัดว่ามีถิ่น กำเนิดอยู่ที่ใดเป็นสุนัขที่มีประวัติเก่าแก่ พันธุ์หนึ่งในสมัยโรมัน เมื่อชาวโรมันยกทัพไป
รุกรานชาติอื่น มักจะเดินทางรอนแรมนับเดือน และจะต้องเตรียมสเบียงอาหารไปด้วย โดยการพาฝูงสัตว์ติดไปด้วย ในสมัยนั้น ชาว
โรมันนิยมใช้สุนัขพันธุ์ ROTTWEILER ช่วยต้อนฝูงสัตว์ และเป็นสุนัขเฝ้ายามใน เวลากลางคืน ชื่อ ROTTWEILER ได้มาจากชื่อ
เมือง ROTTWELL ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางการค้าสัตว์ในสมัยศตวรรษที่ 12 ปัจจุบันนิยม นำสุนัขพันธุ์นี้มาใช้ในกิจกรรมของกรมตำรวจ
ทหาร ตลอดจนเลี้ยงไว้เฝ้าบ้านด้วย.


10.australian cattle
ออสเตรเลียน แคทเทิล ด็อก หรือ ออสเตรเลียน ควีนแลนด์ เป็นสุนัขที่ได้ชื่อว่า อายุยืนที่สุดในโลก ( มากที่สุด 29 ปี ) และเป็นสุนัข
ที่มีความกล้าหาญ มุ่งมั่น แต่เดิมใช้ต้อนฝูงโค สามารถคุมฝูงโคได้ดี โดยไม่ต้องส่งเสียงเห่าหรือวิ่งพล่านรอบตัวโค

เป็นสุนัขที่มีสายพันธุ์เกี่ยวเนื่องกับ สุนัขดิงโก มีถิ่นกำเนิดในอยู่ในประเทศออสเตรเลีย เกิดขึ้นประมาณปี ค.ศ. 1800

ลักษณะประจำพันธุ์สุนัขพันธุ์นี้ จะมีใบหูใหญ่ทรงสามเหลี่ยมตั้งขึ้น ช่วงลำคอหนา ตลอดทั้งลำตัว โดยเฉพาะส่วนหัว จะมีขนสีขาว ๆ
ขึ้นแซมประปราย หางยาวไม่ถึงข้อขา ลักษณะหางจะตกโค้งเล็กน้อย

วิธีการคูณเลข 2-3 หลักให้เร็ว

การคูณเลข 2 หลักที่มีหลักหน่วยเท่ากัน และหลักสิบรวมกันได้ครบสิบ หรือเลข 3 หลักที่มีหลักร้อยเท่ากัน และเลข 2 หลัก ที่เหลือรวมกันครบร้อยพอดี

การคูณเลข 2 หลัก มีหลักการดังนี้
1. หลักหน่วยคูณกันเป็นเลข 2 หลักท้าย คือ หลักหน่วย และหลักสิบ
2. หลักสิบคูณกันแล้วบวกด้วยหลักหน่วยตัวหนึ่งเป็นเลข 2 หลัก ถัดขึ้นมา คือหลักร้อยและหลักพ้น

การคูณเลข 3 หลักมีหลักการดังนี้
1. เอาเลข 2 หลักท้ายของทั้งตัวตั้งและตัวคูณ คูณเข้าด้วยกัน
2. เอาเลขหลักร้อยคูณตัวเลขถัดขึ้นไปจากตัวเอง คูณด้วย 10,000
3. ข้อ 1 + ข้อ 2

ลองทำแบบฝึกดังต่อไปนี้
1. 65 x 45 = ?
ก. 3,025 ข. 2,925 ค. 3,825 ง. 2,725

2. 77 x 37 = ?
ก. 2,649 ข. 2,749 ค. 2,849 ง. 2,949

3. 89 X 29 = ?
ก. 2,281 ข. 2,381 ค. 2,481 ง. 2,581

4. 88 X 28 = ?
ก. 2,464 ข. 2,564 ค. 2,664 ง. 2,764

5. 69 X 49 = ?
ก. 3,081 ข. 3,181 ค. 3,281 ง. 3,381

6. 739 X 761 = ?
ก. 562,389 ข. 562,379 ค. 562,369 ง. 562,359

7. 989 X 911 = ?
ก. 900,998 ข. 900,999 ค. 900,989 ง. 900,979

8. 457 X 443 = ?
ก. 202,451 ข. 202,461 ค. 202,551 ง. 202,561

9. 329 X 371 = ?
ก. 122,039 ข. 122,049 ค. 122,059 ง. 122,069

10.691 X 609 = ?
ก. 420,819 ข. 420,829 ค. 420,839 ง. 420,849

เฉลยคณิตฯ คิดเร็ว
1. ข 2. ค 3. ง 4. ก 5. ง 6. ข 7. ง 8. ก 9. ค 10. ก

การบริการห้องสมุด

การบริการห้องสมุด

การบริการห้องสมุด
1. บริการยืม - คืนหนังสือ - สื่อ
บริการให้ยืมหนังสือและสิ่งพิมพ์ประเภทต่าง ๆ รวมทั้งสื่อการศึกษาของห้องสมุดยกเว้นหนังสืออ้างอิง
วารสารเย็บเล่ม หนังสือพิมพ์ วารสารใหม่

2. บริการตอบคำถามและช่วยการค้นคว้า
บรรณารักษ์และเจ้าหน้าที่จะให้คำอธิบายต่าง ๆ ในเรื่อง ห้องสมุด เช่น การใช้บัตรรายการ
การสืบค้นข้อมูลสารนิเทศ การสืบค้นทางอินเตอร์เน็ตแนะนำการใช้หนังสืออ้างอิง และแนะนำ
หนังสือเรื่องราวที่ผู้ใช้ต้องการค้นคว้า

3. บริการหนังสือสำรอง
ห้องสมุดจะจัดหนังสือที่มีจำนวนน้อยไม่พอกับจำนวนนักศึกษาเป็นหนังสือสำรองที่ให้ยืม
1 - 3 วัน หรือให้ใช้เฉพาะภายในห้องสมุด

4. บริการแนะนำการปฐมนิเทศการใช้ห้องสมุด (ภายในห้องสมุด)
เมื่อเปิดภาคเรียนหรือปีการศึกษาใหม่ห้องสมุดจะให้บริการแนะนำการใช้ห้องสมุดแก่นักศึกษาใหม่ทุกคน

5. บริการแนะนำหนังสือใหม่
ห้องสมุดให้บริการ ประชาสัมพันธ์หนังสือใหม่โดย จัดพิมพ์รายชื่อหนังสือใหม่และจัดแสดงหนังสือใหม่
ที่ตู้แสดงหนังสือใหม่เป็นประจำ

6. จัดนิทรรศการซึ่งเกี่ยวกับวันสำคัญต่าง ๆ ระหว่างวันที่1 มกราคม - 31 ธันวาคม ของทุกปี

7.บริการจุลสารกฤตภาคจุลสารคือสิ่งพิมพ์ที่มีขนาดเล็กกฤตภาคคือการตัดหรือถ่ายสำเนาเรื่องราว
เรื่องใดเรื่องหนึ่งจากหนังสือหรือสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ นำมาเก็บในแฟ้มเป็นเรื่อง ๆจุลสารและกฤตภาค
จะให้ความรู้เรื่องต่าง ๆ ที่ทันสมัยน่าสนใจ

จริยธรรมและความปลอดภัย

 

เทคโนโลยีสารสนเทศมีผลกระทบต่อสังคมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะประเด็นจริยธรรมที่เกี่ยวกับระบบสารสนเทศที่จำเป็นต้องพิจารณารวมทั้งเรื่องความปลอดภัยของระบบสารสนเทศการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศหากไม่มีกรอบจริยธรรมกำกับไว้แล้ว สังคมย่อมจะเกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมาไม่สิ้นสุด รวมทั้งปัญหาอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ด้วย ดังนั้นหน่วยงานที่ใช้ระบบสารสนเทศจึงจำเป็นต้องสร้างระบบความปลอดภัยเพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว


ประเด็นเกี่ยวกับจริยธรรม
คำจำกัดความของจริยธรรมมีอยู่มากมาย เช่น “ หลักของศีลธรรมใ นแต่ละวิชาชีพเฉพาะ ”

“ มาตรฐานของการประพฤติปฏิบัติในวิชาชีพที่ได้รับ ” “ ข้อตกลงกันในหมู่ประชาชนในการกระทำสิ่งที่ถูกและหลีกเลี่ยงการกระทำสิ่งที่ผิด ” หรืออาจสรุปได้ว่า จริยธรรม (Ethics) หมายถึง หลักของความถูกและความผิดที่บุคคลใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติ (Laudon & Laudon, 1999:105)


กรอบความคิดเรื่องจริยธรรม
หลักปรัชญาเกี่ยวกับจริยธรรม มีดังนี้ (Laudon & Laudon, 1999)

R.O. Mason และคณะ ได้จำแนกประเด็นเกี่ยวกับจริยธรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศเป็น 4 ประเภทคือ ความเป็นส่วนตัว (Privacy) ความถูกต้องแม่นยำ (Accuracy) ความเป็นเจ้าของ (Property) และความสามารถในการเข้าถึงได้ (Accessibility) (O'Brien, 1999: 675; Turban, et al., 2001: 512)

1) ประเด็นความเป็นส่วนตัว (Privacy) คือ การเก็บรวบรวม การเก็บรักษา และการเผยแพร่ ข้อมูลสารสนเทศเกี่ยวกับปัจเจกบุคคล

2) ประเด็นความถูกต้องแม่นยำ (Accuracy) ได้แก่ ความถูกต้องแม่นยำของการเก็บรวบรวมและวิธีการปฏิบัติกับข้อมูลสารสนเทศ

3) ประเด็นของความเป็นเจ้าของ (Property) คือ กรรมสิทธิ์และมูลค่าของข้อมูลสารสนเทศ (ทรัพย์สินทางปัญญา)

4) ประเด็นของความเข้าถึงได้ (Accessibility) คือ สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลสารสนเทศได้และการจ่ายค่าธรรมเนียมในการเข้าถึงข้อมูลสารสนเทศ



การคุ้มครองความเป็นส่วนตัว (Privacy)

ความเป็นส่วนตัวของบุคคลต้องได้ดุลกับความต้องการของสังคม
สิทธิของสาธารณชนอยู่เหนือสิทธิความเป็นส่วนตัวของปัจเจกชน
การคุ้มครองทางทรัพย์สินทางปัญญา
ทรัพย์สินทางปัญญาเป็นทรัพย์สินที่จับต้องไม่ได้ที่สร้างสรรค์ขึ้นโดยปัจเจกชน หรือนิติบุคคล ซึ่งอยู่ภายใต้ความคุ้มครองของกฎหมายลิขสิทธิ์ กฎหมายความลับทางการค้า และกฎหมายสิทธิบัตร

ลิขสิทธิ์ (copyright) ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 หมายถึง สิทธิ์แต่ผู้เดียวที่จะกระทำการใด ๆ เกี่ยวกับงานที่ผู้สร้างสรรค์ได้ทำขึ้น ซึ่งเป็นสิทธิ์ในการป้องกันการคัดลอกหรือทำซ้ำในงานเขียน งานศิลป์ หรืองานด้านศิลปะอื่น ตามพระราชบัญญัติดังกล่าวลิขสิทธิ์ทั่วไปมีอายุห้าสิบปีนับแต่งานได้สร้างสรรค์ขึ้น หรือนับแต่ได้มีการโฆษณาเป็นครั้งแรกในขณะที่ประเทศสหรัฐอเมริกาจะมีอายุเพียง 28 ปี

สิทธิบัตร (patent) ตามพระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ. 2522 หมายถึง หนังสือสำคัญที่ออกให้เพื่อคุ้มครองการประดิษฐ์ หรือการออกแบบผลิตภัณฑ์ ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ โดยสิทธิบัตรการประดิษฐ์มีอายุยี่สิบปีนับแต่วันขอรับสิทธิบัตร ในขณะที่ประเทศสหรัฐอเมริกาจะคุ้มครองเพียง 17 ปี



อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ (Computer Crime)

Sorry, your browser doesn't support Java(tm).

อาชญากรรมคอมพิวเตอร์อาศัยความรู้ในการใช้เครื่องมือคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อื่น โดยสามารถทำให้เกิดความเสียหายด้านทรัพย์สินเงินทองจำนวนมหาศาลมากกว่าการปล้นธนาคารเสียอีก นอกจากนี้อาชญากรรมประเภทนี้ยากที่จะป้องกัน และบางครั้งผู้ได้รับความเสียหายอาจจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ

• เครื่องคอมพิวเตอร์ในฐานะเป็นเครื่องประกอบอาชญากรรม
• เครื่องคอมพิวเตอร์ในฐานะเป็นเป้าหมายของอาชญากรรม

• การเข้าถึงและการใช้คอมพิวเตอร์ที่ไม่ถูกกฎหมาย

• การเปลี่ยนแปลงและการทำลายข้อมูล

• การขโมยข้อมูลข่าวสารและเครื่องมือ

• การสแกมทางคอมพิวเตอร์ (computer-related scams)


การรักษาความปลอดภัยของระบบคอมพิวเตอร์
การควบคุมที่มีประสิทธิผลจะทำให้ระบบสารสนเทศมีความปลอดภัยและยังช่วยลดข้อผิดพลาด การฉ้อฉล และการทำลายระบบสารสนเทศที่มีการเชื่อมโยงเป็นระบบอินเทอร์เน็ตด้วย ระบบการควบคุมที่สำคัญมี 3 ประการ คือ การควบคุมระบบสารสนเทศ การควบคุมกระบวนการทำงาน และการควบคุมอุปกรณ์อำนวยความสะดวก (O'Brien, 1999: 656)



การควบคุมระบบสารสนเทศ (Information System Controls)

• การควบคุมอินพุท

• การควบคุมการประมวลผล

• การควบฮาร์ดแวร์ (Hardware Controls)

• การควบคุมซอฟท์แวร์ (Software Controls)

• การควบคุมเอาท์พุท (Output Controls)

• การควบคุมความจำสำรอง (Storage Controls)



การควบคุมกระบวนการทำงาน (Procedural Controls)

• การมีการทำงานที่เป็นมาตรฐาน และมีคู่มือ

• การอนุมัติเพื่อพัฒนาระบบ

• แผนการป้องกันการเสียหาย

• ระบบการตรวจสอบระบบสารสนเทศ (Auditing Information Systems)



การควบคุมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่น (Facility Controls)

• ความปลอดภัยทางเครือข่าย (Network Security)

• การแปลงรหัส (Encryption)

• กำแพงไฟ (Fire Walls)

• การป้องกันทางกายภาพ (Physical Protection Controls)

• การควบคุมด้านชีวภาพ (Biometric Control)

• การควบคุมความล้มเหลวของระบบ (Computer Failure Controls

การเลือกเฟอร์นิเจอร์แต่งบ้าน

การเลือกเฟอร์นิเจอร์แต่งบ้าน

สำหรับการเลือกเฟอร์นิเจอร์ “งบประมาณ” ก็มีส่วนสำคัญมากเช่นกัน เบื้องต้นเราต้องกำหนดก่อน หรือปรึกษาร่วมกันกับมัณฑนากรของท่านก็ได้ว่า เครื่องเรือนใดที่ท่านมีอยู่เดิม และจะนำกลับมาใช้ใหม่ หรือชิ้นไหนที่ท่านจะขอไปเลือกซื้อเอง

หรือ แยกงบออกมา แล้วขอคำปรึกษาในการเลือกซื้อ กับมัณฑนากรของท่านก็ได้เช่นกัน ไม่ว่าท่านจะเลือกเองหรือให้มัณฑนากรช่วยเลือก หรือร่วมกันเลือก สิ่งสำคัญที่สุด คือ

ความเหมาะสมกับความงาม
สำหรับเจ้าของบ้าน ผู้คุ้นเคยกับการเปลี่ยนแปลงเครื่องเรือน เหล่านี้อยู่บ่อยๆ อาจมีความชำนาณมาก บางครั้งมากกว่าผู้ออกแบบด้วยซ้ำ

“ความเหมาะสม” ที่ว่าถึง คือ สัดส่วนของเครื่องเรือนกับพื้นที่ เช่น ไม่ควร เลือกเครื่องเรือนที่ทึบตัน สีเข้มกับพื้นที่เล็ก และตกแต่งด้วยโครงสีเข้ม เช่นเดียวกัน เพราะจะทำให้ห้องเล็ก และสูญเสียพื้นที่ใช้สอยอย่างไม่เหมาะไม่งาม เป็นต้น

นอกจากความเหมาะสมเรื่อง “รูปทรง สี” ที่สัมพันธ์กับพื้นที่แล้ว “รสนิยมเรื่องรูปแบบเครื่องเรือน” ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เจ้าของบ้านบางท่าน ชอบที่จะติดตามใส่ใจในข่าวสารเรื่องราว เกี่ยวกับการตกแต่งบ้าน ทั้งจากนิตยสารต่างๆ สื่อต่างๆ ทั้งไทยและเทศ ก็จะเป็นผู้ที่เปี่ยมด้วยรสนิยมได้

“รสนิยมที่ดี” มีได้ด้วยดูมากเห็นมาก อันจะช่วยยกระดับงานตกแต่งบ้านให้มีคุณค่าได้

นอกเหนือไปจาก “การวางผังที่ดี การออกแบบที่ดี” แล้ว เครื่องเรือนลอยตัวที่ดี ก็จะเป็นพระเอก นางเอก ที่เป็นตัวแทนบุคลิกของเรา ความเป็นตัวตนของเรา โดยมีโครงออกแบบ โครงสีของพื้น ผนัง เพดาน รวมๆเป็นฉากหลังให้กับตัวละครเอกของเราเช่นนี้ เป็นต้น

สำหรับรูปแบบของเครื่องเรือน เช่น แบบสมัยใหม่ ก็มีทั้งของแท้และของเลียนแบบ ของใช้แล้วแต่ยังทรงคุณค่า มีให้เลือกหลายที่ เช่น แถวย่านทองหล่อ เอกมัย สุขุมวิท เป็นต้น

ข้อพิจารณาในการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์สำหรับนั่ง คือ
- ควรเลือกให้เหมาะกับขนาดของห้อง คือ ไม่ควรซื้อชุดรับแขกที่ใหญ่
เกินไปในห้องที่แคบ เพราะจะทำให้เกะกะและไม่สะดวกต่อการสัญจร
ภายในห้อง ส่วนเฟอร์นิเจอร์ที่เล็กเกินไปก็จะทำให้ห้องขาดความสมดุล
ระหว่างเฟอร์นิเจอร์กับพื้นที่ของห้อง
- ควรมีการทดลองนั่งดูก่อนว่าสบายหรือไม่
- การใช้โซฟาแบบ 2 ที่นั่งจะเกิดประโยชน์มากกว่าการใช้เก้าอี้ 2 ตัว
เพราะนอกจากจะประหยัดเนื้อที่มากกกว่าแล้วยังสะดวกต่อการนั่ง
สนทนาตั้งแต่ 2 คนอีกด้วย
- ควรเลือกให้เหมาะกับการใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น หากคุณใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการดูทีวีในห้องรับแขก
หรือห้องนั่งเล่น คุณควรจะพิจารณาเฟอร์นิเจอร์นั่งสบายที่มีพนักรองรับคอและแผ่นหลัง เป็นต้น

ข้อพิจารณาในการเลือกซื้อโต๊ะเตี้ย และโต๊ะข้าง คือ

- โต๊ะเตี้ยและโต๊ะข้างที่วางใกล้โซฟานั้นจะต้องรู้ว่าต้องการใช้ทำอะไร เช่น วางที่เขี่ยบุหรี่ วางโคมไฟ เป็นต้น
ดังนั้นการเลือกซื้อโต๊ะจึงต้องขึ้นอยู่กับเก้าอี้รับแขกที่ใช้คู่กัน
- ถ้าเป็นเก้าอี้ไม่มีท้าวแขน ควรเลือกซื้อโต๊ะที่มีความสูงอยู่ระดับเดียวกับเบาะรองนั่งของเก้าอี้
- ถ้าเป็นเก้าอี้แบบมีที่ท้าวแขน ความสูงของโต๊ะควรอยู่ต่ำกว่าท้าวแขนประมาณ 1-2 นิ้ว เพื่อความสะดวก
ในการหยิบของ

การจัดดอกไม้

การจัดดอกไม้

จัดดอกไม้สไตล์ Topiary
โทปิอารี่ (Topiary) เป็นศิลปะการตกแต่งไม้พุ่มให้เป็นรูปทรงต่างๆ โดยเฉพาะรูปทรงเรขาคณิต เช่น รูปทรงกลม รูปสามเหลี่ยม หรือรูปสี่เหลี่ยม รวมทั้งการตกแต่งให้เป็นรูปคน สัตว์ หรือสิ่งของต่างๆ ซึ่งศิลปการตกแต่งดังกล่าวนี้เป็นที่นิยมตั้งแต่ยุคโบราณจนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้และต่อมานักจัดดอกไม้ก็ได้นำศิลปะการจัดโทปิอารี่มาใช้ในการจัดดอกไม้ด้วย โดยโทปิอารี่ที่จัดง่ายที่สุดคือรูปทรงกลม และดอกไม้ที่จัดโทปิอารี่ได้สวยที่สุดก็คือ ดอกกุหลาบนั่นเอง

การจัดดอกไม้รวม
การจัดดอกไม้รวมให้ออกมาดี คือ ดอกไม้แต่ละแบบต้องส่งเสริมซึ่งกันและกัน และการส่งเสริมกันนี้ จะทำให้ความงามของดอกไม้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

การจัดดอกไม้สีโทนร้อน

สีโทนร้อนได้แก่ สีแดง สีส้มหรือสีแสด สีเหลือง สีม่วง เป็นต้น สีโทนร้อนเป็นสีที่แสดงถึงพลัง ความบ้าคลั่ง ความตื่นเต้นเร้าใจ การเย้ายวน ความกระฉับกระเฉง และไม่พ่ายแพ้ง่าย ๆ ถ้าคุณจะจัดดอกไม้โทนร้อนในบ้าน ควรเลือกมุมที่แสงแดดส่องถึง การจัดลำดับสีโทนร้อนมีความหลากหลาย ที่จะทำให้คุณมีความคิดสร้างสรรค์แบบไม่จำกัด

การจัดดอกไม้สีโทนอ่อน
สีโทนอ่อนเป็นสีเย็นตา เช่น สีขาว มักใช้ในโอกาศสำคัญเกี่ยวกับทางศาสนา เช่น งานแต่ง ดอกไม้สีขาวเป็นทางเลือกคลาสสิค ความงามตามธรรมชาติของดอกไม้สีอ่อน ทำให้ดูดีขึ้นได้ด้วยการเลือกใบอย่างชาญฉลาด ภาชนะที่ใส่ถ้าเป็นดอกสีขาว ภาชนะอาจจะเลือกให้อยู่ในโทนเดียวกันก็ได้ จะให้ความงามที่สบายตา และดูมีรสนิยม

การจัดดอกไม้ขนาดใหญ่

การจัดดอกไม้ขนาดใหญ่ ต้องการภาชนะที่ใหญ่และหนัก ภาชนะที่ใช้อาจจะเป็นแจกันขนาดใหญ่ โอ่งขนาดเล็กหรือกลาง หรือง่าย ๆ ถังสีที่คุณใช้แล้ว ทำความสะอาดสักหน่อย ก็จะให้ความสวยที่ไม่แพ้กับแจกันราคาแพง ยิ่งเป็นการจัดดอกไม้ใหญ่เท่าไร ความสำคัญของภาชนะก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเป็นจุดสนใจด้วย

การจัดดอกไม้สมัยใหม่

การจัดดอกไม้แบบสมัยใหม่ ดูเหมือนจะได้รับอิทธิพลมาจากญี่ปุ่นเป็นอันมาก โดยมีอิทธิพลของจิตรกรเป็นส่วนประกอบด้วย เพราะลักษณะรูปแบบในการจัดดอกไม้ตามแบบสมัยใหม่ มีทีท่าส่อไปในรูปแบบที่คำนึงถึงความง่าย ความสะดวก เช่นเดียวกับการจัดดอกไม้แบบญี่ปุ่น ไม่พิถีพิถันในการเลือกสรรวัสดุการจัดและอุปกรณ์แต่อย่างได หากแต่ว่าได้เน้นหนักไปในทางที่จะต้องทำให้ได้ส่วนสัมพันธ์และรับกันกับแบบของเครื่องเรือนหรือลักษณะและรูปแบบของห้องที่นำมันไปประดับเป็นส่วนประกอบมากกว่าอื่นใดทั้งหมด

อาหารประจำภาค

 

ภาคกลาง
พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่ม มีแม่น้ำหลายสายไหลผ่าน ข้าวปลาอาหารจึงอุดมสมบูรณ์เกือบตลอดทั้งปี รวมทั้งมีพืชผัก ผลไม้นานาชนิด

ด้วยเหตุนี้อาหารภาคกลางจึงเป็นอาหารที่มีความหลากหลาย ทำให้รสชาติของอาหารภาคกลางไม่เน้นไปทางรสใดรสหนึ่งโดยเฉพาะ คือมีทั้งรสเค็ม เผ็ด เปรี้ยว และหวานคลุกเคล้าไปตามชนิดต่างๆของอาหาร นอกจากนี้มักมีการใช้เครื่องปรุงแต่งกลิ่นรส เช่น เครื่องเทศ และมักใช้กะทิเป็นส่วนประกอบของอาหาร

อาหารภาคกลางเป็นอาหารที่มักจะมีเครื่องเคียงของแนมร่วมรับประทานด้วย เช่น น้ำพริกลงเรือ แนมด้วยหมูหวาน น้ำปลาหวานทานกับสะเดา เป็นต้น

จุดเด่นคือ อาหารภาคกลางมักจะมีการประดิษฐ์ สร้างสรรค์อย่างวิจิตรบรรจง ผัก และผลไม้มีการแกะสลักอย่างสวยงาม แสดงให้เห็นถึงความเป็นเอกลักษณ์ของอาหารไทยที่มีศิลปะและวัฒนธรรมที่งดงาม


ภาคใต้

พื้นที่ติดชายฝั่งทะเล ลักษณะภูมิประเทศเป็นแหลมยื่นลงไปในทะเล ประชากรส่วนใหญ่จึงนิยมทำประมง

ด้วยเหตุนี้อาหารหลักของภาคใต้จึงเป็นอาหารทะเลสด และนิยมใช้เครื่องเทศในการปรุงอาหาร รสชาติจะเผ็ดร้อน เค็มและเปรี้ยว เช่น แกงไตปลา แกงส้ม และแกงเหลือง เป็นต้น

อาหารภาคใต้นิยมทานควบคู่กับผักเพื่อช่วยลดความเผ็ดร้อนลง ซึ่งเรียกว่า ผักเหนาะ เช่น มะเขือเปราะ ถั่วฝักยาว ถั่วพู สะตอเป็นต้น


ภาคเหนือ

เป็นดินแดนที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาแต่อดีต มีขนบธรรมเนียม ประเพณีที่แตกต่างไปจากภาคอื่นๆ

การรับประทานอาหารของทางภาคเหนือจะใช้โก๊ะข้าว หรือที่เรียกว่า ขันโตก แทน โต๊ะอาหาร โดยจะนั่งล้อมวงเพื่อรับประทานอาหารร่วมกัน

คนภาคเหนือจะรับประทานข้าวเหนียวเป็นอาหารหลัก โดยอาหารของทางภาคเหนือจะเป็นอาหารที่สุกมากๆ และเป็นอาหารประเภทที่ผัดกับน้ำมันเป็นส่วนใหญ่







ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

เป็นดินแดนที่ค่อนข้างแห้งแล้ง ทำให้อาหารพื้นเมืองจึงเป็นอาหารพวกแมลงหลายชนิด ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนที่หล่อเลี้ยงชีวิตประชากรในภาคนี้

อาหารอีสานส่วนใหญ่จะมีข้าวเหนียวเป็นอาหารหลัก ส่วนพืชผัก และเนื้อสัตว์ที่นำมาใช้ประกอบอาหารได้มาจากภายในท้องถิ่นเป็นส่วนใหญ่

อาหารอีสานมักใช้ปลาร้าเป็นเครื่องปรุงรสในอาหารเกือบทุกชนิด แต่ไม่นิยมใส่ในอาหารประเภทผัด และมักรับประทานคู่กับผักสด